เว็บสล็อตออนไลน์ เพลิงใหม้วิลล่าหรูเกาะสมุย เสียหายหนัก สาเหตุยังไม่ชัดเจน

เว็บสล็อตออนไลน์ เพลิงใหม้วิลล่าหรูเกาะสมุย เสียหายหนัก สาเหตุยังไม่ชัดเจน

เกิดเหตุเพลิงไหม้ โรงแรม เอราวัณ วิลล่า โฮเทล เว็บสล็อตออนไลน์ บ้านบางรักษ์ ถนนสายบางรักษ์-บ้านปลายแหลม ม.4 ต.บ่อผุดเกาะสมุย ที่เกิดเหตุเป็นวิลล่า 2 ชั้น ทำจากไม้ทั้งหลัง จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อีกทั้งยังมีลมกระโชกแรง ทำให้เพลิงโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง  เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ ได้  แต่วิลล่าหลังดังกล่าวถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหลัง มูลค่าความเสียหายประมาณ 3 ล้านบาท เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังจากเพลิงสงบทราบว่า ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกหนักลงมาและได้ยินเสียงฟ้าผ่ามา 1 ครั้ง หลังจากที่ฝนหยุดตก ก็เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นมาและมีเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอย่างรุนแรง ในช่วงเวลานั้นมีลมพัดแรง จึงทำให้เพลิงรุกไหม้อย่างรวดเร็ว

แหม่มยุโรปวิ่งโร่ร้องไห้ออกจากซอยใกล้หาดในหาน ระบุถูกชายไทยทำมิดีมิร้าย ยังไม่ชัดถูกข่มขืน รอผลตรวจ

ภูเก็ต – แหม่มยุโรปวิ่งโร่ร้องไห้ออกจากซอย ใกล้หาดในหาน ขอให้พลเมืองดีช่วย ระบุถูกชายไทยพานั่งรถจักรยานยนต์มาจากหาดกะตะ เพื่อทำมิดีมิร้าย แจ้งตำรวจตรวจสอบ ยังไม่ชัดถูกข่มขืนหรือไม่ รอผลตรวจ เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันนี้ ( 9 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง นำโดย พ.ต.ท.สนั่น จันรงค์ รองผกก.สส.สภ.ฉลอง รักษาการแทน ผกก.สภ.ฉลอง พ.ต.ท.สมศักดิ์ โสภาการ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบหาเบาะแส

หลังได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านขายกาแฟ บริเวณใกล้กับหาดในหาน จ.ภูเก็ต มามีนักท่องเที่ยวหญิงสาวชาวต่างชาติวิ่งร้องให้มาขอความช่วยเหลือ ในเบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า นักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติรายดังกล่าวมีอายุ 24 ปี วิ่งออกมาจากซอยไม่มีชื่อซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้าน บานาน่ากาเฟ่ต์ ถนนวิเศษ หาดในหาน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ลักษณ์ร้องให้ออกมา พร้อมกับขอให้เจ้าของร้านขายกาแฟช่วยเหลือ ด้วยน้ำตานองหนา เนื่องจากถูกชายไทยกระทำมิดีมิร้าย และเอามาจับที่ต้องตลอดเวลา โดยพบว่าบริเวณร่างกายมีรอยคล้ายรอยช้ำ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าถูกข่มขืนหรือไม่

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านในพื้นที่รวมทั้งเจ้าของร้านขายกาแฟ โดยนางสาววาสนา สุขแก้ว อายุ 27 ปี เจ้าของร้านขายกาแฟ กล่าวว่า ทราบว่าเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 8.45 น. ขณะที่กำลังยืนอยู่หน้าร้านกับมารดา ก็มีนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติ สภาพเสื้อกล้ามสีฟ้า สวม บราลายกราฟฟิส สวมกางเกงขาสั้นลายขาวเทา วิ่งออกมาจากซอยซึ่งอยู่ตรงข้ามร้าน ลักษณะร้องให้ขอให้ตนช่วยเหลือ

ซึ่งตนก็พยายามสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น จากการพูดคุยคาดนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวถูกชายไทยพามาพยายามที่จะมีอะไรที่อาคารหลังหนึ่งที่มีกำแพง แต่ในเบื้องต้นไม่ทราบว่าจุดไหน และสิ่งที่นักท่องเที่ยวพูดคือนักท่องเที่ยวกลัวติดโรคซึ่งตนก็ไม่มั่นใจว่าถูกกระทำ หรือพยายามกระทำ หลังจากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็ได้สอบถามนักท่องเที่ยวถึงจุดที่ถูกคาดว่าทำร้ายร่างกาย แต่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวให้การวกวนจึงได้พาตัวนักท่องเที่ยวส่ง สภ.ฉลอง และนำตัวส่งโรงพยาบาลฉลองเพื่อตรวจร่างกายและพักฟื้นร้างกาย ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะเข้าสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ขณะที่พนักงานร้านขายเสื้อผ้าซึ่งอยู่ใกล้กับร้านกาแฟ 

กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ ตนได้ยินเสียงเหมือนชาวต่างชาติทะเลกัน โดยจะได้ยินเสียงของผู้หญิงถาม ว่า WHY อยู่ตลอดเวลา ซึ่งพอจะแปลความหมายได้ว่า คุณทำฉันทำไม” แต่ก็คิดว่าเป็นชาวต่างชาติทะเลาะกันเอง ก็ไม่ได้สนใจอะไร อย่างไรก็ตามหลังจากรับทราบข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินเข้าไปยังซอยที่คาดว่านักท่องเที่ยววิ่งออกมา พบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นมีบ้านเช่าอยู่หลายหลัง แต่มีอยู่หนึ่งหลังที่สร้างติดอยู่กับห้องพักของพนักงานร้านขายเสื้อผ้า และเป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่อาศัย

จากการเดินตรวจสอบพบว่าบริเวณบ้านด้านหนึ่งติดกำแพงแต่ระหว่างตัวบ้านและกำแพงมีที่ว่างโรยด้วยหิน อีกด้านหนึ่งมีรั่วต้นไม้ ซึ่งจากการตรวจสอบยังไม่พบร่องรอยอะไร นอกจากนั้นจากการสืบสวนในเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวซึ่งพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่หาดกะตะ ได้นั่งดื่มกินอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งบริเวณหาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต กับชายไทยคนหนึ่ง

จนกระทั่งเวลา เกือบ 7.00 น. ก็ได้ขอให้ชายไทยคนดังกล่าวขับรถไปส่งที่พัก แต่สุดท้ายพามายังจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวชายไทยคนดังกล่าวแล้ว กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาให้ปากคำ สรรพสามิตรับ ศึกษาเรื่องเก็บภาษีความเค็ม ยันห่วงสุขภาพคนไทย อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในสินค้าที่ใช้ไขมันทรานส์และสินค้าที่มีความเค็มนั้น หากแต่จะยังไม่ได้มีผลบังคับใช้ในเร็วๆนี้ การจัดเก็บภาษีดังกล่าวคือความจำเป็นเพราะต้องดูแลสุขภาพของคนในประเทศให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นเรื่องสุขภาพอนามัย ซึ่งในระยะยาวจะเป็นการช่วยลดภาระงบประมาณค่ารักษาพยาบาลด้วย ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีของเค็มและไขมันทรานส์จะไม่กระทบกับผู้บริโภค เพราะเป็นการเก็บภาษีต้นทางจากผู้ประกอบการ เช่นเดียวกับการจัดเก็บภาษีสินค้าที่มีความหวานด้วย

ส่วนเรื่องการจัดเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้า กรมสรรพสามิตขอยืนยันว่า กรมพร้อมมาก เพราะมีอัตราภาษีอยู่ในพิกัดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ แต่การตัดสินใจว่าจะจัดเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ ที่น่าจะมีข้อมูลชัดเจนถึงความจำเป็นของการจัดเก็บภาษีมากกว่า ดยการเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้าประเภทที่ 1 และ 3 ทำได้ง่ายเพราะมีความชัดเจน แต่สำหรับประเภทที่ 2 ที่เป็นแบบน้ำ อาจจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เข้ามาช่วยดูว่าส่วนประกอบของน้ำผสมด้วยสารอะไรบ้าง เพื่อทำการเก็บภาษีให้ถูกต้อง เว็บสล็อต